Last updated: 23 ส.ค. 2568 | 673 จำนวนผู้เข้าชม |
 
                    1. ประกันภาคบังคับ (พ.ร.บ.)
     - พ.ร.บ. คุ้มครองคน ไม่คุ้มครองรถ
     - เมื่อเกิดเหตุหากมีคนเจ็บ หรือเสียชีวิต ต้องเบิกจาก พ.ร.บ. ก่อนทุกครั้ง
     - หากวงเงินไม่พอจึงจะไปเบิกจากภาคสมัครใจ
     - หากไม่มี พ.ร.บ. ต่อภาษีประจำปีไม่ได้
     - รถไม่มี พ.ร.บ. โทษปรับ 20,000 บาท
          - ปรับคนขับ 10,000 บาท
          - ปรับเจ้าของรถ 10,000 บาท
     ในกรณีขาดการต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ จะไม่ต้องเสียค่าปรับในการต่อ พ.ร.บ. ใหม่อีกครั้ง แต่จะส่งผลให้มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจแล้วเจ้าของรถไม่มีหลักฐานแสดงหรือขาดต่อ พ.ร.บ. ก็จำเป็นที่จะต้องเสียค่าปรับตามกฎหมายนั่นเอง และหลังจากที่เสียค่าปรับแล้วนั้นหากรถคันไหนไม่ได้ทำการต่อ พ.ร.บ. ก็จะไม่สามารถเสียภาษีหรือต่อทะเบียนรถยนต์ได้อีกด้วย และเมื่อไม่ได้เสียภาษีรถยนต์หรือปล่อยไว้นานจนทะเบียนรถขาด เจ้าของรถจะต้องเสียค่าปรับร้อยละ 1 ต่อเดือนอีกด้วย
2. ต่อภาษี (ป้ายสี่เหลี่ยม)
     - เป็นการเสียภาษีประจำปีตามกฎหมาย
     - รถยนต์เกิน 7 ปี ต้องตรวจสภาพที่ ตรอ.
     - มอเตอร์ไซค์เกิน 5 ปี ต้องตรวจสภาพที่ ตรอ.
     - โทษปรับไม่ต่อภาษี 400 - 1,000 บาท
     - ไม่ต่อภาษีเกิน 3 ปี ถูกระงับทะเบียน และจะต้องนำรถไปตรวจใหม่ที่ขนส่งเท่านั้น
3. ประกันภาคสมัครใจ (ความคุ้มครองตามประเภทการรับประกัน)
     - มีความคุ้มครองให้เลือกหลากหลายตามประเภทการใช้งาน
     - คุ้มครองค่าซ่อมรถและทรัพย์สินของคู่กรณี
     - คุ้มครองรถตัวเองตามประเภทที่ซื้อ
     - คุ้มครองค่ารักษาส่วนที่เกินจาก พ.ร.บ.
     - คุ้มครองกรณีเสียชีวิต ค่ารักษาพยาบาล และประกันตัวผู้ขับขี่
   ดังนั้นการมีทั้ง 3 อย่างนี้ให้กับรถของคุณที่ใช้ขับขี่อยู่ทุกวันๆ จะทำให้การเดินทางของคุณทุกครั้งมีความอุ่นใจและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพราะนอกจากจะถูกต้องตามกฎหมายแล้วยังช่วยคุ้มครองทั้งตัวคุณและรถที่คุณรักอีกด้วย
11 ก.ย. 2568
25 ก.ย. 2568
25 ก.ย. 2568
25 ต.ค. 2568