6 ทริค เดินทางไกลด้วยรถ EV

       รถยนต์ไฟฟ้ากำลังได้รับความนิยมจากคนไทย โดยเฉพาะคนเมืองที่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าใช้แล้วประหยัด แต่ถ้าจะต้องเดินทางไกลข้ามจังหวัดประมาณ 250 กิโลเมตรเป็นต้นไป ก็ต้องวางแผนการเดินทางกันสักหน่อย เนื่องจากจุดชาร์จรถไฟฟ้ายังไม่ครอบคลุมการใช้งาน ที่สำคัญเรื่องของเวลา เช่น การจองคิว หรือจุดชาร์จเสียก็ยังเป็นปัญหาให้กวนใจนิดๆ หน่อยๆ  ขอนำ 6 เทคนิคการเดินทางไกลด้วยรถ EV ของสำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบกมาฝาก โดยมีรายละเอียดดังนี้ 
 

  6 เทคนิคการเดินทางไกลด้วยรถ EV 

1. วางแผนการเดินทาง ดูจุดชาร์จ 
หลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีการจราจรติดขัด เลือกใช้เส้นทางที่ปลอดภัย มีจุดบริการชาร์จไฟพร้อมทั้งคำนวณและเผื่อเวลาการชาร์จแบตเตอรี่ 

2. ไม่บรรทุกสัมภาระหนักเกินไป  
จะทำให้รถใช้พลังงานมากขึ้น การบรรทุกของเท่าที่จำเป็น จะช่วยประหยัดพลังงานได้ 

3. ตรวจสอบยางเติมลมยาง  
ยางที่มีความดันน้อย จะทำให้รถใช้พลังงานมากขึ้น 

4. ชาร์จไฟในระดับ 70-80%  
ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ และระหว่างเดินทางไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่ต่ำกว่า 30% 

5. ขับรถด้วยความเร็วคงที่  
ไม่เร่งเครื่องอย่างรวดเร็วหรือเบรกกะทันหัน จะช่วยลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็นและยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ 

6. ใช้โหมด Eco  
ช่วยปรับการทำงานให้ระบบต่างๆ ประหยัดพลังงาน ลดปริมาณพลังงานที่ใช้ 
 
               นอกเหนือจากการขับรถยนต์ไฟฟ้าเดินทางไกลให้ประหยัดแล้ว การเดินทางให้ปลอดภัยก็ยังคงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ผู้ขับขี่ควรหยุดพักทุก ๆ 2 ชั่วโมง เพื่อลดอาการอ่อนล้าสะสม นอกจากนี้ยังช่วยให้แบตเตอรี่มีอุณหภูมิต่ำลงด้วยเช่นกัน 
 
 

 Tips : เทคนิคการขับรถให้ปลอดภัยและมั่นใจ 
 
1. ตรวจสภาพรถก่อนออกเดินทาง 
          ทำไมต้องตรวจ : เพื่อความปลอดภัย ลดโอกาสเกิดเหตุขัดข้องกลางทาง 
          สิ่งที่ควรเช็ก : ยางรถยนต์, น้ำมันเครื่อง, น้ำหล่อเย็น, ไฟหน้า-ไฟเบรก 
2. รู้จักกฎจราจร และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด 
          รู้แล้วทำตาม : ช่วยให้ขับขี่ปลอดภัย ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น 
          ตัวอย่างง่าย ๆ : หยุดรถเมื่อเห็นคนข้ามทางม้าลาย, ใช้ไฟเลี้ยวทุกครั้งเมื่อเปลี่ยนเลน 
3. เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า 
          เพื่ออะไร: ป้องกันการชนเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน 
          วิธีง่าย ๆ : ใช้กฎ 3 วินาที – นับ 3 วินาทีจากจุดที่รถคันหน้าผ่านจุดสังเกต 
4. ใช้ความเร็วอย่างเหมาะสม 
ตามกฎหมายกำหนด และ ปรับตามสภาพถนน 
          ขับเร็วเกินไป = อุบัติเหตุรุนแรง 
          ขับช้าเกินไป = ก่อให้เกิดอันตรายเช่นกัน 
5. มีสติ และไม่ขับรถเมื่อเหนื่อยล้า 
พักผ่อนให้เพียงพอ ก่อนเดินทางไกล 
          หากง่วงระหว่างทาง : หยุดพักทันที ดีกว่าฝืนขับต่อ 

และหากใครสนใจประกันภัยรถยนต์ นึกถึง MNR Insurance Broker คอยให้บริการ สามารถสอบถามเพิ่มเติมหรือติดตามได้ทางช่องทางต่างๆของ MNR Insurance Broker ยินดีให้บริการ   
โทร : 02-1070511-12    
Facbook : MNR Insurance Broker  
Line : @mnrinsurancebroker